บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
438
2 นาที
10 มีนาคม 2568
Loss Leader Pricing กลยุทธ์ยอมขาดทุน! เพื่อกำไรที่เพิ่มขึ้น
 

ทำธุรกิจสิ่งที่ต้องการก็คือ “กำไร” วิธีการที่จะได้มาก็มีหลายแบบ แต่ถ้าบอกว่าให้ยอมขาดทุนก่อนแล้วค่อยได้กำไร ส่วนใหญ่บอกว่าวิธีนี้ไม่เอา แต่กลยุทธ์นี้ก็มีอยู่จริง และก็มีคนเอาไปใช้และได้ผลดีเกินคาดด้วย วิธีนี้เรียกว่า “Loss Leader Pricing” คือกลยุทธ์การตั้งราคารูปแบบหนึ่ง ที่คนขายจะตั้งราคาสินค้าบางอย่าง ให้มีราคาถูกมาก ๆ จนแทบไม่มีกำไร หรือยอมขายขาดทุน


 
พูดเหมือนจะไม่มีข้อดีแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ข้อดีของวิธีนี้คือ
  • ธุรกิจมีโอกาสได้ระบายสินค้าใน Stock มากขึ้น เพราะบางครั้งธุรกิจก็อาจจะมีกรณีที่มี ยอดขายไม่ตรงตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้, สินค้ามีการเคลื่อนไหวออกช้า หรือ การ Forecast การผลิตผิด แต่ในเวลาเดียวกันธุรกิจของเราก็ยังคงต้องตามหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ
  • ยอมเสียก่อนเพื่อหวังผลยอดขายสินค้าที่สูงกว่า เช่นสินค้าอย่างมีดโกนที่เป็นแบบด้ามพร้อมใบมีดมักจะมีราคาถูก แต่เมื่อซื้อแบบนี้มาแล้วครั้งต่อไปเราก็ต้องซื้อใบมีดมาเปลี่ยน
  • เพิ่ม Loyalty Customer ให้กับธุรกิจ เพราะไม่ว่าใครก็นิยมของถูก และถ้าแบรนด์เป็นคนเสนอมาเองแบบนี้ก็ยิ่งดี ในขั้นแรกคือให้มีลูกค้าเข้าหาเราได้ก่อนจากนั้นค่อยสร้างความประทับใจในภายหลังได้
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เมื่อยอดขายของแบรนด์เริ่มตกหรือการถูกพูดถึงแบรนด์น้อยลง แบรนด์ส่วนใหญ่มักเลือกกลยุทธ์นี้มาชวนให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อสินค้า ซึ่งมีโอกาสเพิ่ม Market Share และ Social Voice ได้ง่ายที่สุด

อย่างไรก็ดีสิ่งทีค่ควรพิจารณาก่อนใช้กลยุทธ์ Loss Leader Pricing คือต้นทุนการผลิตซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และต้องไม่ลืมวิเคราะห์กลยุทธ์คู่แข่งและมองถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องมีแผนสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินร่วมด้วย
 
การตลาดด้วยวิธี Loss Leader Pricing ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างง่ายที่สุดคือในห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะโซนอาหารสดต่างๆ มักมีโปรโมชันลดราคายอมตั้งราคาสินค้าบางตัวต่ำกว่าราคาทั่วไปตามท้องตลาด
 
หรือยอมตั้งราคาต่ำกว่าทุนที่ซื้อมา และโฆษณาราคาของสินค้ากลุ่มนี้ออกไปว่าเป็นราคาพิเศษประจำสัปดาห์ เช่น ไข่ไก่ฟองละ 2 บาท หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 95 บาท น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 19 บาท เป็นต้น
 
 
วิธีนี้ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยในต่างประเทศเองก็ถูกนำมาใช้ ยกตัวอย่าง Costco ห้างค้าส่งชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ขาย “ไก่ย่าง Rotisserie” ในราคาตัวละ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170 บาท ซึ่งถือว่าถูกและคุ้มค่ามาก 
 
โดย Costco จะขายไก่ย่าง Rotisserie ในโซนที่ลูกค้าต้องเดินเข้าไปลึก ๆ ทำให้กว่าลูกค้าจะเดินเข้ามาถึงโซนนี้ ระหว่างทางลูกค้าจะได้เดินดูสินค้าในโซนอื่น ๆ และมีโอกาสเลือกซื้อสินค้าอื่น ๆ ติดมือกลับไปด้วย ที่น่าสนใจคือ เคยมีการคำนวณกันว่าห้าง Costco ขาดทุนจากการขายไก่ย่าง Rotisserie ปีละประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาท แต่ในภาพรวม Costco ก็ยังมีกำไรมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
 
แต่ในอีกแง่มุมของ Loss Leader Pricing ที่ค่อนข้างท้าทายเจ้าของธุรกิจ เพราะไม่ใช่แค่การ manage ลูกค้าเท่านั้น แต่ต้อง manage เรื่องภายในด้วย ทั้งเรื่องของการเตรียมการด้านต่างๆ โดยเฉพาะก่อนที่กลยุทธ์นี้จะเริ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญด้วย
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
496
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
418
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด