บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
483
2 นาที
10 มีนาคม 2568
Loss Leader Pricing กลยุทธ์ยอมขาดทุน! เพื่อกำไรที่เพิ่มขึ้น
 

ทำธุรกิจสิ่งที่ต้องการก็คือ “กำไร” วิธีการที่จะได้มาก็มีหลายแบบ แต่ถ้าบอกว่าให้ยอมขาดทุนก่อนแล้วค่อยได้กำไร ส่วนใหญ่บอกว่าวิธีนี้ไม่เอา แต่กลยุทธ์นี้ก็มีอยู่จริง และก็มีคนเอาไปใช้และได้ผลดีเกินคาดด้วย วิธีนี้เรียกว่า “Loss Leader Pricing” คือกลยุทธ์การตั้งราคารูปแบบหนึ่ง ที่คนขายจะตั้งราคาสินค้าบางอย่าง ให้มีราคาถูกมาก ๆ จนแทบไม่มีกำไร หรือยอมขายขาดทุน


 
พูดเหมือนจะไม่มีข้อดีแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ข้อดีของวิธีนี้คือ
  • ธุรกิจมีโอกาสได้ระบายสินค้าใน Stock มากขึ้น เพราะบางครั้งธุรกิจก็อาจจะมีกรณีที่มี ยอดขายไม่ตรงตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้, สินค้ามีการเคลื่อนไหวออกช้า หรือ การ Forecast การผลิตผิด แต่ในเวลาเดียวกันธุรกิจของเราก็ยังคงต้องตามหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ
  • ยอมเสียก่อนเพื่อหวังผลยอดขายสินค้าที่สูงกว่า เช่นสินค้าอย่างมีดโกนที่เป็นแบบด้ามพร้อมใบมีดมักจะมีราคาถูก แต่เมื่อซื้อแบบนี้มาแล้วครั้งต่อไปเราก็ต้องซื้อใบมีดมาเปลี่ยน
  • เพิ่ม Loyalty Customer ให้กับธุรกิจ เพราะไม่ว่าใครก็นิยมของถูก และถ้าแบรนด์เป็นคนเสนอมาเองแบบนี้ก็ยิ่งดี ในขั้นแรกคือให้มีลูกค้าเข้าหาเราได้ก่อนจากนั้นค่อยสร้างความประทับใจในภายหลังได้
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เมื่อยอดขายของแบรนด์เริ่มตกหรือการถูกพูดถึงแบรนด์น้อยลง แบรนด์ส่วนใหญ่มักเลือกกลยุทธ์นี้มาชวนให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อสินค้า ซึ่งมีโอกาสเพิ่ม Market Share และ Social Voice ได้ง่ายที่สุด

อย่างไรก็ดีสิ่งทีค่ควรพิจารณาก่อนใช้กลยุทธ์ Loss Leader Pricing คือต้นทุนการผลิตซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และต้องไม่ลืมวิเคราะห์กลยุทธ์คู่แข่งและมองถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องมีแผนสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินร่วมด้วย
 
การตลาดด้วยวิธี Loss Leader Pricing ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างง่ายที่สุดคือในห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะโซนอาหารสดต่างๆ มักมีโปรโมชันลดราคายอมตั้งราคาสินค้าบางตัวต่ำกว่าราคาทั่วไปตามท้องตลาด
 
หรือยอมตั้งราคาต่ำกว่าทุนที่ซื้อมา และโฆษณาราคาของสินค้ากลุ่มนี้ออกไปว่าเป็นราคาพิเศษประจำสัปดาห์ เช่น ไข่ไก่ฟองละ 2 บาท หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 95 บาท น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 19 บาท เป็นต้น
 
 
วิธีนี้ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยในต่างประเทศเองก็ถูกนำมาใช้ ยกตัวอย่าง Costco ห้างค้าส่งชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ขาย “ไก่ย่าง Rotisserie” ในราคาตัวละ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170 บาท ซึ่งถือว่าถูกและคุ้มค่ามาก 
 
โดย Costco จะขายไก่ย่าง Rotisserie ในโซนที่ลูกค้าต้องเดินเข้าไปลึก ๆ ทำให้กว่าลูกค้าจะเดินเข้ามาถึงโซนนี้ ระหว่างทางลูกค้าจะได้เดินดูสินค้าในโซนอื่น ๆ และมีโอกาสเลือกซื้อสินค้าอื่น ๆ ติดมือกลับไปด้วย ที่น่าสนใจคือ เคยมีการคำนวณกันว่าห้าง Costco ขาดทุนจากการขายไก่ย่าง Rotisserie ปีละประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาท แต่ในภาพรวม Costco ก็ยังมีกำไรมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
 
แต่ในอีกแง่มุมของ Loss Leader Pricing ที่ค่อนข้างท้าทายเจ้าของธุรกิจ เพราะไม่ใช่แค่การ manage ลูกค้าเท่านั้น แต่ต้อง manage เรื่องภายในด้วย ทั้งเรื่องของการเตรียมการด้านต่างๆ โดยเฉพาะก่อนที่กลยุทธ์นี้จะเริ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญด้วย
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
552
หมดยุคทอง อพาร์ตเมนต์-หอพัก จากเสือนอนกิน สู่แมว..
538
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
497
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
476
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
440
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
428
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด