บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.8K
1 นาที
17 มิถุนายน 2562
สัญญาณอันตราย: ความสามารถในการซื้อลดลง
 

ภาพจาก https://pixabay.com

สัญญาณอันตรายสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สัดส่วนราคาบ้านต่อรายได้ดีดขึ้นจาก 4.9 เท่าเป็น 8.9 เท่าในช่วงปี 2550-2561

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ได้นำตัวเลขรายได้ต่อครอบครัวต่อปีของชาวกรุงเทพมหานคร มาเทียบกับราคาบ้านที่เปิดขายในแต่ละปีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า เมื่อนำราคาบ้านที่เสนอขาย มาหารด้วยรายได้ต่อปี ปรากฏว่า อัตราส่วนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการจ่ายเพื่อการซื้อบ้านของประชาชนโดยรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ในปี 2550 รายได้ของครัวเรือนในกรุงเทพมหานคร มีรายได้เดือนละ 39,020 บาท ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (https://bit.ly/2NWK8zx) ในปีนั้น ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ประมาณการว่า ราคาโดยเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยทุกประเภทเป็นเงิน 2.289 ล้านบาท หรือเท่ากับว่าราคาที่อยู่อาศัยเป็น 4.9 เท่าของรายได้ต่อเดือนของครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานคร  แต่มาในปี 2561 สัดส่วนข้างต้นได้เพิ่มเป็น 8.9 เท่า  แสดงว่าครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีความสามารถในการซื้อบ้านลดน้อยลง


ภาพจาก https://bit.ly/2x7TJtj
 
ในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา (2550-2561) สัดส่วนราคาบ้านต่อรายได้ของครอบครัว เพิ่มขึ้น 69% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 4.9% ในขณะที่รายได้ต่อครัวเรือนของชาวกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนั้น  โดยเฉพาะในช่วงปี 2556 มาจนถึงปี 2558 รายได้ต่อครัวเรือนของชาวกรุงเทพมหานครลดจาก 49,191 บาทต่อเดือนมาเหลือเพียง 45,572 บาทต่อเดือน ส่วนในปี 2560 ก็แทบไม่แตกต่างจากปี 2558 ดังนั้นความสามารถในการจ่ายของประชาชนจึงลดลง
 
ปัญหาของความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนจะวิกฤติมากยิ่งขึ้นเพราะต่างชาติโดยเฉพาะจีนมาแย่งซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น  ประเทศไทยไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำที่จะซื้อได้ ไม่ได้กำหนดอัตราภาษีสูงๆ (แต่แทบไม่เก็บภาษีเลย) จึงทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยราว 20% มีต่างชาติมาหาซื้อ ทำให้ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้น  ต่อไปคนไทยจะสามารถซื้อบ้านได้น้อยลง สู้ต่างชาติไม่ได้ ตลาดที่อยู่อาศัยอาจถูกต่างชาติโดยเฉพาะจีนครอบงำ


ภาพจาก https://bit.ly/2x7TJtj
 
สำหรับแนวทางการแก้ไขก็คือ
  1. กำหนดราคาขั้นต่ำของที่อยู่อาศัยที่จะให้ต่างชาติซื้อ เช่น ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เป็นต้น (มาเลเซียกำหนดไว้ขั้นต่ำประมาณ 8-16 ล้านบาท)
  2. กำหนดอัตราภาษีสูง เช่น สิงคโปร์กำหนดให้ต่างชาติที่มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ต้องเสียภาษี 20% ส่วนฮ่องกงกำหนดไว้ที่ 30%
  3. กำหนดห้ามต่างชาติซื้อบ้านมือสอง ทั้งนี้ออสเตรเลียก็มีข้อกำหนดนี้
  4. กำหนดให้ต่างชาติที่มาซื้อที่อยู่อาศัยในไทย ไม่สามารถขายต่อในเวลา 3 ปี ทั้งนี้ไต้หวันใช้มาตรการนี้
  5. กำหนดให้ชาวต่างชาติที่มาซื้อที่อยู่อาศัยไม่สามารถอยู่ในไทยได้เกิน 4 เดือน ทั้งนี้ไต้หวันก็ใช้มาตรการนี้ เป็นต้น
ถ้าคนไทยเองสามารถซื้อบ้านได้น้อยลง ปัญหาที่อยู่อาศัยก็จะเกิดขึ้น รัฐบาลจึงพึงสังวร


ภาพจาก https://bit.ly/2x7TJtj
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 12-15 พฤษภาคม 2562 หน้า 27

 
ที่มา : https://bit.ly/2E73FH0
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด