Tadao Kashio
ภาพจาก bit.ly/2lGST43

 

Tadao Kashio เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1917 ในเมือง Kureta-mura (ตอนนี้คือเมือง Nankoku) จังหวัด Kochi ประเทศญี่ปุ่น ครอบครัวของ Kashio นั้น เป็นครอบครัวธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อ Tadao อายุได้เพียง 5 ปี ครอบครัวก็ต้องเผชิญกับภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายน ปี 1923 โดยบ้านได้รับความเสียหายเกินกว่าจะซ่อมไหว ครอบครัวจึงต้องอพยพไปอยู่กับลุง

 

โดย Tadao Kashio เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นคนงานก่อสร้าง และเมื่อจบการศึกษาได้ไปศึกงานที่ โรงงาน Enomoto ในตำแหน่งผู้ช่วยช่างกลึงเหล็ก และได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเซวาดะ เมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยได้เข้ามาทำงานในโรงงานผลิตเครื่องวิทยุของทหาร จากนั้นก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจบสงครามโลก ในปี 1946 ตอนที่ Tadao อายุ 29 ปี ก็นำเงินเก็บมาก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ Kashio Seisakujo ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและชิ้นส่วนกลไกต่าง ๆ

 

ภาพจาก bit.ly/2lBYkkN

 

หลังจากก่อตั้งโรงงานตัวเองขึ้นมาสิ่งที่ผลิตไม่ใช่สิ่งที่เป็นกลไกแต่ดันเป็นแหวนที่ชื่อ Yubiwa ซึ่งเป็นแหวนสามารถใช้ถือบุหรี่ได้ โดยแหวนนี้ช่วยให้ผู้สวมสามารถถือบุหรี่ได้โดยไม่ต้องใช้นิ้วจับ จากนั้น ในปี 1950 Tadao เริ่มคิดและพัฒนาต้นแบบเครื่องคิดเลขไฟฟ้า แต่ด้วยความที่ยุคนั้นเครื่องจักรและวิศวกรรมของญี่ปุ่นยังล้าหลังมาก โปรเจคนี้จึงดูหริบหรี่เหลือเกิน

ภาพจาก bit.ly/2m4kYm1

กระทั่งในปี 1954 เขาก็สามารถผลิตเครื่องคิดเลขไฟฟ้าต้นแบบและไปเสนอขายให้ บริษัท Bunshodo ที่เป็นบริษัทขายเครื่องใช้สำนักงานทั่วไปแต่ก็ถูกปฏิเสธด้วยมองว่าเครื่องคิดเลขเป็นสินค้าตกยุคเพราะไม่มีฟังก์ชั่นหลายอย่างที่ต่างประเทศเขามีกันหมดแล้ว หลังจากการปรับปรุงและพัฒนาใหม่อีกครั้งทำให้ได้เซ็นต์สัญญากับบริษัท Kashio Seisakujo ที่เป็นผู้ผลิต และ บริษัทUchida Yoko ที่จะเป็นผู้จัดจำหน่าย

 

พี่น้องตระกูล Kashio
ภาพจาก bit.ly/2m609qr

 

ในปี 1957 Tadao ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์สินค้าใหม่จาก Kashio มาเป็น CASIO ซึ่งสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษและสะกดได้ง่ายกว่า Kashio ที่เป็นนามสกุลของตระกูล โดยนำไปตั้งชื่อบริษัทว่า CASIO COMPUTER แต่ยังมีสินค้าหลักคือเครื่องคิดเลขไฟฟ้า ที่มีคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นฟูและขยายตัวเป็นอย่างมาก

 

ภาพจาก bit.ly/2kzUPew

 

ในช่วงต้นยุค 70 Tadao มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมนาฬิกาข้อมือที่มีผู้ครองตลาดคือประเทศ Switzerland เขาเริ่มผลิตนาฬิการะบบดิจิตอลในราคาถูกและราคาปานกลาง ซึ่งยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่มาก ซึ่งบริษัท CASIO COMPUTER ได้กลายมาเป็นบริษัทแรกที่ผลิตนาฬิกาแบบสควอตซ์ (นาฬิกาที่ใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่)

 

ภาพจาก bit.ly/2lEz5hM

 

CASIO เป็นรายแรก ๆ ที่สามารถทำให้นาฬิกาข้อมือแสดงเวลาในโซนต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงการบอกอุณหภูมิของอากาศ, ความกดอากาศ, ระดับความสูงจากน้ำทะเล ซึ่งในยุคนั้นนาฬิกาจากฝั่งยุโรปอาจจะมีฟังก์ชั่นดังกล่าวอยู่แล้วบ้างแต่ของ CASIO ถือว่ามีความแม่นยำและมีความเสถียรของระบบมาก จึงได้รับความนิยมอย่างดี

 

CASIOTRON First Model 1974
ภาพจาก bit.ly/2m6XX1X

 

ในปี 1974 บริษัทได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกคือ CASIOTRON โดยตัวนาฬิกา เป็นแบบอิเล็คทรอนิกส์ สามารถแสดงเวลาได้เที่ยงตรง และมีจุดเด่นคือ มีปฏิทินที่บอกวันเดือนปีแบบอัตโนมัติ และมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้คน เพราะด้วยความที่ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์มีราคาถูกและสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้คนทั่วไป สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้

 

ภาพจาก bit.ly/2lLAEdF

 

จากรุ่นของ Tadao ที่บุกเบิกบริษัทได้รักษาคุณภาพและมาตรฐานตัวเองมาอย่างต่อเนื่องทำให้พนักงานในรุ่นหลังๆ ได้รับอิทธิพลความคิดนั้น ดูได้จากผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ G-SHOCK ที่ถือได้ว่าเป็นผลงานระดับ Master Piece ของวงการนาฬิกาโลก ที่คิดค้นขึ้นโดย Kikuo Ibe วิศวกรที่เป็นพนักงานของ CASIO เมื่อปี 1978

 

ภาพจาก bit.ly/2kCbNZN

 

แนวคิดของ G-SHOCK นาฬิกาที่ว่าทนทานที่สุดในปฐพีเริ่มจากวิศวกรผู้คิดค้นต้องการนาฬิกาที่ทนทานประเภทหล่นมาจากตึกสิบชั้นก็ยังไม่พัง ผู้คิดค้นได้ทำการทดลองและล้มเหลวมากว่า 200 ครั้งในระยะเวลากว่า 3 ปี แต่สุดท้ายโปรเจคนี้สำเร็จได้เพราะไอเดียจากเด็กคนหนึ่งที่เล่นบอลยาง ทำให้ผู้คิดค้นได้ไอเดียตัวกลไกของนาฬิกาให้ลอยอยู่ตรงกลางไม่ยึดติดกับตัวเรือน แล้วจากนั้นจึงปรับเปลี่ยนวัสดุภายนอกเป็นยางที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี เพื่อมาเป็นตัวยึดระหว่างเครื่องและตัวเรือนเอาไว้

 

ภาพจาก bit.ly/2m6ZRzD

 

แม้จะเป็นสินค้าของ CASIO แต่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงใช้ชื่อว่า G-SHOCK ซึ่งตัว G ย่อมาจากคำว่า “Gravity” ที่หมายถึงแรงโน้มถ่วงของโลก รวมกับคำว่า SHOCK ที่หมายถึง แรงกระแทก รวมกันจึงกลายเป็น นาฬิกาที่ทนทานต่อแรงกระแทก ผู้ผลิตได้ให้ความหมายของ G-SHOCK ในอีกแง่มุมว่า “มันคือส่วนผสมของการแข็งแกร่งทนทานและความยืดหยุ่น ที่มีดีไซน์ดูโก้เก๋ บวกเข้ากับเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น”

 

ภาพจาก bit.ly/2kz646Z

 

G-SHOCK เป็นสินค้าระดับเรือธงของ CASIO ซึ่งเคยมีรายการทอล์คโชว์ในอเมริกานำ G-SHOCK ไปทดสอบความทนทาน ด้วยการฟาดด้วยไม้ฮอกกี้น้ำแข็งแทนลูกฮอกกี้ในการแข่งขัน รวมไปถึงการใช้รถบรรทุกหนักกว่า 22,650 กิโลกรัมแล่นมาทับตัวเครื่อง ซึ่งปรากฏว่ามันยังใช้งานได้เป็นอย่างดี จนทำให้ถูกบันทึกสถิติลง Guinness World Records ว่าเป็นนาฬิกาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เพิ่มการดีไซน์และผสมผสานแฟชั่นเพิ่มลงไป ปัจจุบัน G-SHOCK ได้ถูกผลิตและพัฒนารูปแบบมากว่า 5,000 รุ่น

 

CASIO นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใช้เวลาในการต่อสู้ หาประสบการณ์ให้ตัวเอง ฝ่าฟันวิกฤติในช่วงต่างๆ จนมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีถือเป็นต้นแบบที่ดีของการทำธุรกิจที่ไม่ได้เริ่มต้นแบบโรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อาศัยความตั้งใจและขยัน และไม่ยอมทิ้งโอกาส รวมถึงมีหลักการในการบริหารคนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S