บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
2 นาที
20 กุมภาพันธ์ 2563
ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป อเมริกา เตรียมซื้อร้านค้าปลีก Forever 21


 
ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาต่างประสบปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากผู้ค้าปลีกที่เช่าพื้นที่ภายในห้างฯ ต่างประสบปัญหาขายของไม่ได้เช่นเดียว ทยอยปิดร้านอย่างต่อเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ Forever 21 ร้านค้าปลีกเครื่องแต่งกายชื่อดังก็ยังยื่นล้มละลายในปีที่ผ่านมา แต่มาล่าสุดมีรายงานว่า “ไซม่อนพร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป” เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาใกล้จะบรรลุข้อตกลงมูลค่า 81 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ค้าปลีกเครื่องแต่งกายวัยรุ่น Forever 21


David Simon ผู้บริหาร Simon Property และ Forever 21
ภาพจาก bit.ly/2SYWkjz
 
เหตุผลข้อสำคัญที่ทำให้กิจการของ Forever 21 ที่เคยรุ่งเรือง กลับต้องมายื่นล้มละลายเมื่อปี 2562 และต้องปิดหน้าร้านไปหลายร้อยสาขา คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป กล่าวคือ ผู้บริโภคมีการเลือกซื้อสินค้าหรือเสื้อผ้าตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าน้อยลง และหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ส่งผลให้ร้านค้าต่างๆ ต้องแบกรับค่าเช่าพื้นที่จำนวนมหาศาล และหนี้สินก้อนใหญ่ ในขณะที่รายได้และกำไรจากการขายหน้าร้านลดลงเรื่อยๆ 

 
Forever 21 มีการออกแบบร้านค้าที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านค้าปลีกอื่นๆ โดยมีพื้นที่เฉลี่ย 38,000 ตารางฟุต อ้างอิงข้อมูลตามเว็บไซต์ของบริษัท ทำให้ต้องจ่ายค่าเช่าที่เป็นจำนวนมาก โดยภายหลังบริษัทได้ทำการแก้ปัญหาโดยการปรับให้ร้านมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม โดย Forever 21 เป็นผู้เช่ารายใหญ่ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ไซมอน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป และ บรูคฟิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ โดยก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2559 บริษัทไซม่อน พร็อพพอร์ตี้ กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการ แอโรโพสเทล (Aeropostale) แบรนด์ค้าปลีกเสื้อผ้าวัยรุ่น เพื่อป้องกันการล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เช่า


ภาพจาก bit.ly/2wuIoWV
 
ไม่ใช่เพียง Forever 21 เท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่ H&M แบรนด์เสื้อผ้าแบบฟาสต์แฟชั่นเจ้าใหญ่จากประเทศสวีเดนก็กำลังเผชิญกับปัญหาทางธุรกิจเช่นกัน สะท้อนจากกำไรที่ลดลง รวมถึงราคาหุ้นของบริษัทที่ลดลงกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนรุ่นใหม่เลือกซื้อเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า เช่น เว็บไซต์จำหน่ายเสื้อผ้าที่มาแรงอย่าง แฟชั่น โนวา (Fashion Nova)  เอซอส (Asos)  มิสไกดิด (Missguided) และ ลูลูซ (Lulus ) รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างอเมซอน (Amazon) เป็นต้น 


ภาพจาก bit.ly/37NBVnb
 
งานวิจัยของ คอร์ไซต์ รีเสิร์ช (Coresight Research) ระบุว่าในปี 2562 ที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาได้ทำการปิดตัวลงมากถึง 8,200 ร้าน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วถึง 5,589 ร้าน โดยในจำนวนนี้รวมไปถึงร้าน เพย์เลส ชูซอร์ส (Payless ShoesSource) ร้านค้าปลีกรองเท้าชื่อดัง จิมโบรี (Gymboree) แบรนด์ค้าปลีกเสื้อผ้าเด็ก และ วิกตอเรียส์ซีเคร็ต (Victoria’s Secret) แบรนด์ชุดชั้นในสตรีและผลิตภัณฑ์ด้านความงามชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา 
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
  
อ้างอิงข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด