บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.6K
2 นาที
28 พฤษภาคม 2563
เหลือเชื่อ อสังหาฯ ปี 63 ยังเปิดตัว 13 โครงการ


ภาพจาก bit.ly/36A7XDY
 
เหลือเชื่อ ในเดือนเมษายน 2563 อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ท่ามกลางวิกฤต โควิด 19 ก็ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่ 13 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 2,740 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 10,335 ล้านบาท ไม่ได้สูญพันธุ์ไปไหน
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่า ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้กลับเป็นทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวสัดส่วนมากที่สุด 3 เดือนติดต่อกัน โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 1,703 หน่วย (62.2%) รองลงมาคือบ้านเดี่ยว 455 หน่วย (16.6%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด 401 หน่วย (14.6%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
 
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนเมษายน 2563 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,335 ล้านบาท สินค้าที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่เป็นระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูกเป็นสำคัญ ซึ่งมีระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจำนวนประมาณ (52%) รองลงมา คือที่ราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ (27%) ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้ ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือทาวน์เฮ้าส์ 5,021 ล้านบาท (49%) รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว  2,472 ล้านบาท (24%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด 1,478 ล้านบาท (14%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ
 
จากการวิกฤตโควิด-19 ทำให้ภาพรวมโครงการที่เปิดขายใหม่ในเดือนนี้ชะลอตัว ลดลงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขาย มูลค่าโครงการ และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย ซึ่งลดลงประมาณ 4% เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายมีราคาขายไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 2,165 หน่วย หรือประมาณ 79% ของหน่วยขายทั้งตลาด จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.772 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.913 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น


ภาพจาก bit.ly/3c6s0Ln
 
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้หรือยอดจองซื้อ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขาย มีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 15% ซึ่งจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 7% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาดคือ ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 424 หน่วย ขายได้แล้ว 259 หน่วย (61%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 230 หน่วย ขายได้แล้ว 57 หน่วย (25%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 109 หน่วย ขายได้แล้ว 17 หน่วย (16%) ตามลำดับ
 
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (บริษัทมหาชน) มีจำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตทจำกัด (มหาชน) บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครืออีกมากถึง 2 บริษัทและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป พบว่าบริษัททั่วไปนอกตลาดมีส่วนแบ่งตลาดถึง 51% ของจำนวนหน่วย  แสดงว่าบริษัทมหาชนค่อนข้าง “จุก” คือยังคงมีหน่วยขายเหลืออยู่มาก จึงเปิดตัวโครงการนี้


ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในเพียง 1 โครงการเท่านั้น ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 6 โครงการ เช่น ถนนสรงประภา ถนนรามอินทรา ถนนกาญจนภิเษก ถนนบางนา-ตราด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 6 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น เช่น ย่านไทรน้อย รังสิต-นครนายก และบางพลีใหม่ เป็นต้น
 
ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณดอนเมืองและสุขุมวิท เป็นต้น ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขตติดต่อเมือง เช่น บริเวณ ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) ถนนบางนา-ตราด  ถนนรามอินทรา และพื้นที่รอบนอก เช่น ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนรังสิต-นครนายก และถนน 345 เป็นต้น
 
อย่างไรก็ตามคาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2563 จำนวนโครงการเปิดใหม่จะมีมากขึ้นกว่านี้มาก อย่างน้อยก็ประมาณ 30 โครงการ เพราะโครงการที่ “อั้น” ไว้เตรียมพร้อมจะเปิดแล้ว
 
ที่มา : https://bit.ly/2ABsBaN
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
651
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
564
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
500
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
474
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
460
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
444
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด