บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.5K
2 นาที
5 พฤษภาคม 2565
ก่อนออกจากงาน ควรมีเงินเก็บเท่าไหร่ ถึงเป็นเถ้าแก่เปิดร้านได้
 

หลายคนที่กำลังทำงานประจำ หรือกลุ่มคนมนุษย์เงินเดือน ถ้ามีความคิดอยากลาออกจากงานเพื่อมาเปิดร้านหรือทำธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรมีเงินเก็บเท่าไหร่ ถึงจะออกมาทำธุรกิจของตัวเองได้และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง วันนี้ www.ThaifranchiseCenter.com จะวิเคราะห์และหาข้อมูลมานำเสนอให้ทราบครับ
 
มนุษย์เงินเดือนหลายคนคิดอยากจะเปิดร้านอาหารหรือร้านขายอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะใช้เงินลงทุนเปิดร้านเท่าไหร่ จะเลือกเปิดร้านแบบสร้างขึ้นมาเอง หรือซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งทั้งสองรูปแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่ก่อนอื่นต้องนึกถึงเรื่องเงินที่จะนำมาทุน และการวางแผนธุรกิจเสียก่อน
 
อยากเปิดร้านเอง
 

ถ้าใครอยากเปิดร้านเอง สมมติว่าเป็นร้านอาหารเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ไม่มีค่าเช่า น่าจะใช้เงินลงทุนหลักหมื่นบาท ไม่เกินแสนบาท ถ้าเป็นพื้นที่เช่าต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องการก่อสร้าง การตกแต่งร้าน รวมถึงค่าเช่าพื้นที่มาเกี่ยวข้องด้วย
 
สำหรับเงินลงทุนเปิดร้านอาหารมีหลักการคำนวณค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100% โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 
  1. ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านหรือตกแต่งอาคาร โต๊ะเก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ 
  2. เงินทุนสำหรับซื้ออุปกรณ์เครื่องมือ-เครื่องใช้ภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้แช่ต่างๆ หม้อ จาน ถ้วย ช้อน  เตา แก้ว เครื่องครัว และอื่นๆ ซึ่งต้องดูว่าจะเปิดร้านอาหารประเภทอะไร อะไรไม่จำเป็นไม่ต้องซื้อ
  3. เงินทุนหมุนเวียนภายในร้าน เงินในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อวัตถุดิบในการทำอาหาร เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ 
มาถึงตรงนี้ให้มนุษย์เงินเดือนที่อยากเปิดร้านอาหารของตัวเอง ก็ลองนึกภาพดูว่าร้านอาหารในฝันที่วาดไว้จะใช้เงินทุนมากน้อยขนาดไหน สมมติว่าคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วว่าต้องใช้เงิน 60,000 บาทสำหรับเปิดร้านอาหารเล็กๆ ดังนั้น ก่อนออกจากงานประจำ คุณก็ต้องมีเงินเก็บมากกว่า 60,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างรอการเปิดร้านด้วย 
 
 
 
โดยเงินลงทุนในการเปิดร้านอาหาร 60,000 บาท จะแบ่งออกเป็นค่าออกแบบและตกแต่งร้านประมาณ 15,000 บาท, ค่าซื้ออุปกรณ์เครื่องครัวและอาหารประมาณ 15,000 บาท และค่าใช้จ่ายในร้าน ค่าวัตถุดิบ ประมาณ 30,000 บาท 
 
นั่นคือกรณีเปิดร้านอาหารแบบไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ถ้าเป็นร้านอาหารแบบนั่งทานในร้านรูปแบบ Restaurant อาจจะต้องใช้เงินลงทุนหลักแสนขึ้นไปจนถึงหลักล้านบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งคนที่มีเงินเดือนสูงก็อาจจะใช้เวลาเก็บเงินเปิดร้านอาหารน้อยกว่าคนเงินเดือนต่ำๆ 
 
อยากซื้อแฟรนไชส์
 

หากคุณเลือกเปิดร้านหรือทำธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์ จะทำให้คุณรู้ว่าจะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะเปิดร้านได้ เพราะธุรกิจแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์จะมีการคำนวณเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกมาให้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์, ค่าออกแบบและตกแต่งร้าน, ค่าอุปกรณ์, ค่าวัตถุดิบ, เงินทุนหมุนเวียน และอื่นๆ 
 
สำหรับเงินลงทุนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม เบเกอรี่ บริการ การศึกษา ค้าปลีก งานพิมพ์ อสังหาฯ เป็นต้น 
 
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดร้านด้วยการซื้อแฟรนไชส์ คุณจะต้อง Check list ก่อนว่า วิธีการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด ต้องทำอย่างไรกันบ้าง 
 
1.ถามใจตัวเองก่อนว่าชอบอะไร
 

คุณต้องคุยกับตัวเองกันก่อนว่า อยากเริ่มต้นทำธุรกิจจริงๆ หรือเปล่า และคุณต้องตอบตัวเองให้ได้ด้วยว่า คุณต้องการทำงานเวลาไหน คุณมีความสามารถพิเศษด้านใด หรือ ทำอะไรแล้วมีความสุข (ชอบทำอาหาร ชอบทาน ชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยง) ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอให้ผ่านช่วงเริ่มต้นไปให้ได้ ควรเผื่อเอาไว้หลายเดือนหน่อย ห้ามโลกสวยเด็ดขาด
 
2.สำรวจเงินในกระเป๋าว่ามีเท่าไหร่
 
สำรวจจิตใจกันไปแล้ว คราวนี้คงต้องกลับมาสำรวจกระปุกออมสิน หรือสมุดบัญชีกันต่อเลยว่า ตอนนี้มีเงินทุนเท่าไหร่ หากยังมีไปพอก็อย่าพึ่งถอดใจ คุณมาคิดกันต่อว่าขาดอีกเท่าไหร่ ต้องเก็บกี่เดือน ตั้งเป้าแล้วพุ่งชนเข้าไปเลย หรือจะเลือกหาข้อมูลกู้ยืมจากธนาคารที่สนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่หลายๆ ธนาคาร เพื่อใช้เริ่มธุรกิจก็สามารถทำได้
 
3.ประเมินธุรกิจแฟรนไชส์ที่สนใจ
 

โดยการเริ่มต้นมองในภาพรวมของประเภทธุรกิจนั้นก่อน ว่าตลาดของธุรกิจนั้นมีลูกค้ามากหรือน้อย ใครเป็นคนซื้อ และใครเป็นคนใช้จริง ธุรกิจมาตามกระแสหรือไม่ เช่น คุณอาจจะชอบสอนเด็กๆ วาดรูปอยากเปิดโรงเรียนสอนพิเศษ แต่ต้องคำนึงถึงคนที่ตัดสินใจ และจ่ายเงินคือผู้ปกครอง และกลุ่มผู้ปกครองที่สนับสนุนให้ลูกเรียนวาดรูปมีจำนวนเท่าไหร่ 
 
4.มองหาส่วนที่เป็นจุดอ่อนของธุรกิจนั้น
 
มาถึงตรงนี้คาดว่าตัวเลือกก็น่าจะเหลือน้อยลง แล้วมาลองถามตัวเองอีกทีว่า ลึกๆ ในใจคุณเชื่อหรือไม่ว่าธุรกิจที่เลือกจะสามารถเจริญเติบโตไปในทุกสภาพเศรษฐกิจได้ไหม ในบางอุตสาหกรรมนั้นสามารถที่จะเติบโตไปได้ในทุกๆ สภาพเศรษฐกิจ เช่น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจร้านตัดผม หรือ ธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุ
 
5.ค้นหารายชื่อและข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์
 

เมื่อคุณรู้ประเภทของธุรกิจที่ต้องการ และมีโอกาสเติบโตแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการค้นคว้าหาข้อมูลแฟรนไชส์ เพราะในยุคข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะหารายชื่อ ข้อมูลแฟรนไชส์ในธุรกิจที่สนใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะจากเว็บไซต์แฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถืออย่าง www.ThaiFranchiseCenter.com มีธุรกิจแฟรนไชส์ให้เลือกหลากหลาย 
 
#ค้นหาแฟรนไชส์ตามเงินลงทุน https://bit.ly/3Fgdr8m
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
651
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
601
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
548
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
499
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
494
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
459
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด