บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
794
2 นาที
9 เมษายน 2567
“ความเชื่อ+ศรัทธา+สาธุ” รวยกว่านักธุรกิจสายมู อาณาจักรที่ไม่มีวันจบ
 

ความเชื่อ+ศรัทธา+สาธุ เป็นสิ่งที่เอามาประเมินค่าได้ยากโดยขึ้นอยู่กับความพอใจเป็นสำคัญ เช่น การเติมน้ำมันตะเกียง ต้นทุนอาจไม่ถึง 10 บาท แต่คนทำบุญพอใจอยากใส่ตู้บริจาค 20-100 หรือแม้แต่การทำบุญในรูปแบบต่างๆ คนที่ทำบุญก็ไม่ได้หวังผลในเรื่องกำไร แต่ทำเพื่อความสบายใจและรู้สึกว่าตัวเองอยากทำและมีความสุข เป็นต้น
 
พูดให้ชัดๆ คือ “ความเชื่อ + ศรัทธา+สาธุ” ซึมลึกอยู่ในจิตวิญญาณของคนไทยอย่างไม่รู้ตัวประชากรทั้งหมดในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 66.05 ล้านคน นับถือพระพุทธศาสนามากกว่าร้อยละ 94 แก่นแท้ของศาสนาพุทธ “สอนให้คนมีสติ รู้จักคิดวิเคราะห์ อย่าเชื่อในสิ่งที่งมงาย” แต่เอาเข้าจริงๆ “ความเชื่อ + ศรัทธา+สาธุ” เปรียบเหมือนเครื่องปลอบใจ หรือเรื่องสร้างกำลังใจยิ่งในยุคนี้ที่คนไทย “อยากรวย”
 
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับความเชื่อ+ศรัทธา มีมูลค่ารวมกันกว่าหมื่นล้านบาทและได้รับการคาดหมายว่าเป็น 1 ในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงสุดประจำปี 2567 ถึงที่นำสายมูมาใช้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด (Muketing) เริ่มตั้งแต่การจัดแคมเปญให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มมากขึ้น โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ความเชื่อเป็นคนนำเสนอ
 

ภาพจาก elements.envato.com
 
ถ้าลองวิเคราะห์ให้ดีๆ จะพบว่าสินค้าที่เกี่ยวกับ “ความเชื่อ” ตอนนี้มีอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมดช่น วอลล์เปเปอร์หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ที่มีรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่เสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ที่เน้นสีมงคลตามวันเกิด ไม่ว่าจะกระเป๋า เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม ไม่นับรวมพวกเครื่องรางวัตถุมงคลอย่างเช่น สร้อยข้อมือ สร้อยคอ หินมงคล แม้แต่เครื่องสำอางก็กระโดดเข้าร่วม Muketing โดยนำทองคำปลุกเสกหรือว่านที่มีความเชื่อว่าเสริมศิริมงคลต่างๆ มาเป็นส่วนผสม เป็นต้น
 
และตั้งแต่ปี 2562 – 2567 พบว่าธุรกิจด้านความเชื่อและความศรัทธามีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • ปี 2562 จดทะเบียนจัดตั้ง 11 ราย ทุนจดทะเบียน 15.4 ล้านบาท
  • ปี 2563 จัดตั้ง 11 ราย ทุนจดทะเบียน 7.59 ล้านบาท
  • ปี 2564 จัดตั้ง 20 ราย ทุนจดทะเบียน 13.41 ล้านบาท
  • ปี 2565 จัดตั้ง 24 ราย ทุนจดทะเบียน 27.45 ล้านบาท
  • ปี 2566 จัดตั้ง 33 ราย ทุนจดทะเบียน 26.88 ล้านบาท
ปี 2567 ตั้งแต่เดือน มกราคม – มีนาคม พบว่าจัดตั้งไปแล้ว 12 ราย ทุนจดทะเบียน 7.51 ล้านบาท
 

ภาพจาก elements.envato.com
 
เรื่องนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ถึงขนาดที่มีเสียงเรียกร้องให้เรื่องนี้กลายเป็น Soft Power ของเมืองไทยเพื่อดึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ สอดคล้องกับข้อมูลจาก “ฟิวเจอร์ มาร์เก็ต อินไซต์ 2023” ที่ระบุว่าการท่องเที่ยวเชิงศรัทธามีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 40.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2576 ซึ่งในภาคธุรกิจเองก็สามารถนำเอา Muketing นี้ไปผนวกใช้ได้หลากหลายเช่น
  • “ทัวร์มูเตลู”จัดพานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมพื้นที่เชิงความเชื่อและศาสนาในพื้นที่ต่างๆของประเทศไทย
  • การจัดเซตอาหารมงคล ประยุกต์ให้เข้ากับอาหารประจำถิ่น
  • การจัดเซตอุปกรณ์ไหว้สำเร็จรูป ซึ่งแต่ละท้องถิ่นจะมีอุปกรณ์การไหว้ที่ไม่เหมือนกัน
  • ธุรกิจที่พักแถมดูดวงและเสริมดวง ในรูปแบบโปรโมชันแพ็กเกจเข้าพัก พร้อมมอบสิทธิพิเศษดูดวงและเสริมดวงชะตา
  • การแต่งร้านสไตล์สายมู ของ Cafe หรือร้านค้า จะเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น
และในพื้นที่ไหนก็ตามที่มีตำนาน มี Story เกี่ยวกับความเชื่อ ตรงนั้นพัฒนาเป็นธุรกิจให้เฟื่องฟูได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างที่ นครพนมมีนักธุรกิจยอมลงทุนซื้อที่ดินติดแม่น้ำโขงเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ก่อสร้างอาคารนาคราช ซึ่งเป็นอาคารสูง 10 ชั้นประดับด้วยกระจกทั้งอาคาร รูปแบบของอาคารคล้ายพญานาค โดยตั้งใจที่เปิดเป็นที่พักสุดหรูแนวห้องสูทวีไอพี ในบริเวณใกล้เคียงก็มี “นาคา คาเฟ่” เน้นจุดขายคือได้นั่งชมบรรยากาศริมฝั่งโขง และแนวคิดนี้ก็ดูจะได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมากด้วย
 

ภาพจาก elements.envato.com
 
ในส่วนของคนทำธุรกิจแฟรนไชส์เอง ก็ผนวกเอา Muketing ไปกระตุ้นยอดขายได้เช่นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ดูเป็นศิริมงคล หรือเมนูอาหารที่มีชื่อเป็นมงคล หรือการจัดแคมเปญชิงรางวัลรับวัตถุมงคล เป็นต้น โดยความเชื่อ 5 อันดับแรกที่คนไทยสนใจคือคือ 
  • การพยากรณ์ (ดูดวงรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี) 
  • โหราศาสตร์ ดูลายมือ ไพ่ยิปซี
  • สีมงคล, ตัวเลขมงคล
  • เครื่องรางของขลังเช่นพระเครื่องหรือวัตถุมงคล, 
  • เรื่องเหนือธรรมชาติ 
ข้อมูลระบุอีกว่า คนไทย 75 เปอร์เซ็นต์เชื่อในเรื่องสายมู โดยมีกลุ่มเจน Y (คนเกิดพ.ศ.2523-2540) เชื่อเรื่องดูดวงเป็นอันดับหนึ่งถึง 43.4 เปอร์เซ็นต์
 

ภาพจาก elements.envato.com
 
อย่างไรก็ตามธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อควรดำเนินการอย่างโปร่งใส ซื่อสัตย์ และไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า ธุรกิจควรคำนึงถึงจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่ง Business Model ของธุรกิจที่เกี่ยวกับความเชื่อที่จะประสบความสำเร็จต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี มุ่งเน้นการบริการ พัฒนาสินค้า/บริการอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
 
เรื่องน่ารู้! 
  • จำนวนวัดในเมืองไทยมีมากถึง 43,005 แห่ง
  • คนไทยบริจาคเงินให้กับวัดมากถึง 54,000 ล้านบาทต่อปี
  • กิจกรรมทางศาสนาตามความเชื่อ มักจะอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตคนไทย ตั้งแต่เกิดจนตายเช่น การทำบุญวันเกิด, การทำบุญขึ้นบ้านใหม่, การจัดพิธีศพ หรือแม้กระทั่งการแต่งงาน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
430
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
408
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด