บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
7.5K
2 นาที
8 พฤษภาคม 2560
อยากเปิดร้านกาแฟ แบบไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ ทำไงดี!

 
เทรนด์เครื่องดื่มประเภทกาแฟยังเป็นการลงทุนที่หลายคนสนใจและปัจจุบันก็มีแฟรนไชส์มากมายที่เปิดให้เราเลือกลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ได้ไม่ยากแต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่อยากทำตามใครอยากมีแบรนด์ร้านกาแฟเป็นของตัวเองซึ่งการลงทุนเองนั้นก็มีข้อดีข้อเสียในตัวเองแต่เมื่อเราเลือกที่จะเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเองแล้วก็ควรรู้หลักวิธีการว่าควรเริ่มแบบไหนทำอย่างไรให้ร้านกาแฟในแบบของเราดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มีวิธีการเริ่มต้นสร้างร้านกาแฟด้วยมือของคุณเองมาฝากกัน 
 
อันดับแรกนั้นเราต้องเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราก่อนโดยถ้าดูจากท้องตลาดทั่วไปการลงทุนในร้านกาแฟจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทคือ
 
1. Stand - Alone เป็นอาคารอิสระหรือห้องเช่าที่มีพื้นที่ประมาณ 50 ต.ร.ม. ขึ้นไป ร้าน Stand - Alone อาจตั้งอยู่ตามย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือพลาซ่าใหญ่ๆ
 
2. Corner หรือ Kioskร้านกาแฟขนาดกลาง ใช้พื้นที่ประมาณ 6 ต.ร.ม.ขึ้นไป ลักษณะเป็นมุมกาแฟภายในอาคาร ศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ร้านกาแฟประเภทนี้อาจจัดให้มีที่นั่ง จำนวนเล็กน้อย
 
3. Cart ร้านกาแฟขนาดเล็กประเภทรถเข็น ใช้พื้นที่ประมาณ 3 ต.ร.ม. สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เข้าถึงตลาดได้ทุกระดับ
 
 
จากนั้นมาดูเรื่องงบประมาณการลงทุนในแบบรถเข็นหรือคีออสนั้นเราสามารถลงทุนได้ง่าย ถ้าไม่สนใจแฟรนไชส์ก็หาอุปกรณ์การขายเอง ออกแบบรถเข็นหรือคีออสกันเอง ดีไซน์ตามชอบใจแต่งบประมาณเบื้องต้นก็อยู่ในหลักหมื่นเป็นอย่างน้อย จะมีที่ต้องลงทุนมากหน่อยคือแบบ Stand Alone ที่จะใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 300,000 ถึง 1,500,000 บาท

ซึ่งโครงสร้างต้นทุนของร้านกาแฟรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่ ค่าก่อสร้างออกแบบและตกแต่งสถานที่ ค่าวางระบบต่างๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ระบบเก็บเงิน) ค่าอุปกรณ์ รวมถึงต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 10% ได้แก่ ค่าวัตถุดิบสินค้า ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็นต้น
 
เมื่อไม่ซื้อแฟรนไชส์ก็ต้องทำตลาดด้วยตัวเอง

 
ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์ประการหนึ่งคือภาพลักษณ์การตลาดที่หลายแบรนด์บุกเบิกไว้ให้เรียบร้อยคนรู้จักกันดีว่ารสชาติเป็นอย่างไร มีเมนูไหนน่าสนใจ แต่ถ้าเราเลือกทำร้านกาแฟโดยไม่ง้อแฟรนไชส์เรื่องการตลาดเหล่านี้เราต้องลุยเองเท่านั้น โดยการสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำหมายถึงเวลาลูกค้านึกถึงกาแฟจะต้องนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก
 
โดยมีทริควิธีการตั้งชื่อร้านง่ายๆ คือ ชื่อร้าน การตั้งชื่อร้านที่ดี นั้นคือต้องง่ายต่อการจดจำ การสร้างเรื่องราว ให้คนสนใจและจดจำ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ต้องพิจารณาว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือเปล่า และ ตัวอักษรโลโก้ ตราสินค้า จะใช้ตัวอักษรแบบไหนที่ลูกค้าเห็นและจำได้ทัน โดยหลักการถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่จะจดจำง่ายกว่าตัวพิมพ์เล็ก และที่สำคัญคือเรื่องของสี คนส่วนใหญ่จะนึกถึงกาแฟก็จะนึกถึงสีน้ำตาล น้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม เป็นต้น
 
การเลือกชนิดของกาแฟก็สำคัญมาก


 
แฟรนไชส์กาแฟที่เราเห็นกันส่วนมากจะมีการคัดสรรกาแฟที่ดีที่สุดมาเป็นวัตถุดิบสำคัญนั้นเท่ากับว่าผู้ลงทุนประหยัดเวลาในเรื่องวัตถุดิบเหล่านี้ได้มากแต่ถ้าเราคิดจะดำเนินการเอง การซื้อเมล็ดกาแฟที่ดีก็ควรจะต้องดู วันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุ ปกติกาแฟเมื่อเก็บในถุงฟอยด์ ที่วางขายจะมีอายุในช่วง สูงสุด 6 - 12 เดือน ขึ้นกับชนิดของถุงที่บรรจุ เพราะคุณภาพจะลดลงตามการเวลา โดย กาแฟจะหอมที่สุดเมื่อคั่วได้ 5 วัน และจะค่อยลดระดับลงเรื่อยๆ เวลาเลือกซื้อ อย่าลืม ดูถุงที่ใหม่ ได้กาแฟหอมกรุ่นกว่า
 
และควรเลือกถุงขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 200-250 กรัม และควรใช้ให้หมดใน 1 สัปดาห์เมื่อเปิดถุงแล้วถุงกาแฟที่ระบุว่า Single Origin พร้อมชื่อเมืองต่างๆ แสดงว่าเป็นอราบิก้าของที่นั้น มีเทคนิคการคั่วที่ดี และเป็นรสชาติพิเศษของที่นั้น เช่น Omkoi Estate หากข้างซองระบุว่า Espresso คือเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วใน ระดับเข้ม หรือ Dark Roast

ส่วนซองที่ระบุว่า Medium Roast คือ เมล็ดกาแฟที่คั่วระดับกลาง ดื่มได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับเสิร์ฟในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าผู้ดื่มชอบรสแบบไหนควรซื้อกาแฟในซองระบายอากาศ Freshness wolves เพราะว่าเมล็ดกาแฟจะคายอากาศและความชื้นตลอดเวลา

หากการระบายอากาศไม่ได้จะเสียคุณภาพเร็วยิ่งขึ้น และมีผลให้กาแฟมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เก็บเมล็ดกาแฟให้พ้นแสงแดดการเก็บควรที่จะเก็บในขวดสุญญากาศ อย่าเก็บเม็ดในตู้เย็นเพราะว่าเมื่อออกจากตู้เจออากาศร้อนเมล็ดกาแฟจะชื้น ทำให้ติดกับเครื่องบดและมีกลิ่นจากตู้เย็นมาติดด้วย
 
การเลือกซื้ออุปกรณ์เข้าร้านกาแฟ

 
หลายต่อหลายคนหมดค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อเครื่องชงกาแฟหลายแสน เปิดได้สักปีก็ปิดกิจการขายเครื่องคืนเหลือไม่กี่บาท หรือขายไม่ได้ การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์กาแฟนั้นเป็นสิ่งถูกต้องที่สุดว่า เครื่องชงราคาแพงจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดีด้วย แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขายแก้วละ 20 - 35 บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตถุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน

ดังนั้นวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้า เช่น ถ้าจะขายสัก 30 - 35 บาท ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็ได้ ถ้าจะขายสัก 40 - 50 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้เครื่องเป็นแสนได้เลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่
 
วิธีการบริหารร้านเบื้องต้นสำหรับมือใหม่หัดขาย

 
ทั้งนี้ ขอกล่าวในลักษณะที่ เจ้าของบริหารเอง หากเป็นเจ้าของจ้างคนอื่นมาบริหารหรือจ้างผู้จัดการร้าน และไม่เอาใจใส่ บอกได้เลย เตรียมตัวให้ดีกับปัญหาที่ตามมา นอกจากนี้เจ้าของร้านเองจะต้องมีความสุขกับการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อมและความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น มีทุนทรัพย์ (เงินลงทุน) ที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ รวมถึงต้องศึกษาและก้าวตามทิศทางของตลาดปรับปรุงร้านให้น่าสนใจอยู่เสมอๆ รวมถึงรู้จักใช้สื่อโซเชี่ยลให้เกิดประโยชน์ก็จะช่วยทำให้ร้านกาแฟมือใหม่ของเราติดตลาดได้ในเวลาอันรวดเร็วมากขึ้น
 
ในเบื้องต้นกับแนวคิดเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเองนั้นให้สำรวจตัวเองให้แน่ใจว่ามีความพร้อมมากพอและมีเงินทุนที่ต่อเนื่อง รวมถึงการหาทำเลที่ดีได้เอามาประกอบกันจากนั้นก็ดูเรื่องเมนูที่ควรมีในร้านกาแฟและเมื่อกิจการเริ่มขยายตัวได้ดีเราอาจกลายเป็นแบรนด์กาแฟที่มองหาระบบแฟรนไชส์เพื่อช่วยในการขยายฐานการลงทุนให้เราเติบโตได้เร็วขึ้นด้วย
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
421
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด