บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.7K
3 นาที
3 ตุลาคม 2562
วิเคราะห์ชัดๆ ทำไมร้านขายของชำอเมริกาเปลี่ยนแพลตฟอร์มสู่ออนไลน์
 

คนส่วนมากในอุตสาหกรรมร้านขายของชำในอเมริกาแสดงถึงความมั่นใจว่าลูกค้ากว่า 3%-4%ยอมรับระบบการซื้อขายผ่านทางออนไลน์  ซึ่งอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึง 20% หรือมากกว่านั้นเลยก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็บอกว่าร้านขายของชำชั้นนำในอุตสาหกรรมอาจจะไม่ได้เป็นผู้นำในด้านการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ได้ภายใน 5 ปี หรือ 10 ปี ในขณะที่บางคนกล่าวว่าเหล่าร้านขายของชำในอเมริกาไม่ได้ทำอะไรที่ดูจะประสบความสำเร็จในด้านการเป็นร้านขายของชำออนไลน์เลยด้วยซ้ำ ทั้งนี้ เหล่าร้านขายของชำชั้นนำในอเมริกาอย่าง Walmart , Kroger , Albertson's , Ahold Delhaize รวมไปถึง Publix Sylvain Perrier ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีสำหรับร้านชำอย่าง Mercatus ต่างบอกออกความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า “ธุรกิจร้านขายของชำกำลังจะไปถึงจุดเปลี่ยน”
 
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วย โดยวิล เกรเซอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Grabango และ Pandora Media กล่าวว่าบริษัทของเขาจะไม่เจาะตลาดออนไลน์ไปจนถึง 20% และเดวิด โมราน ประธาน บริษัท Eversight Labs ที่ปรึกษาด้านการจัดการรายได้ที่ขับเคลื่อนโดย AI กล่าวว่า ร้านค้าส่วนใหญ่จะยังวางขายสินค้าหน้าร้านอยู่อีกนานพอควร 
 
ปัญหาหลักของอุตสาหกรรมร้านขายของชำ?


ภาพจาก bit.ly/2pxEby9
 
ปัญหาหลักๆ ในอุตสาหกรรมร้านขายของชำคือ อุตสาหกรรมร้านขายของชำในอเมริกามีขนาดใหญ่มาก มีมูลค่ามากถึงประมาณ 800 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และมีการแข่งขันมากขึ้นในขณะที่ร้านขายของชำแต่ละร้านมีกำไรน้อยลง  และรูปแบบการซื้อขายในร้านขายของชำก็เรียกได้ว่าไม่ได้ต่างไปจากยุคที่คุณแม่ออกไปซื้อของซักเท่าไหร่ คือลูกค้ามาเลือกของจากชั้นวางสินค้าถึงที่ร้าน
โดยอีกเหตุผลหนึ่งที่ร้านขายของชำไม่สามารถทำเงินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้นั้นส่วนหนึ่งก็เพราะความนิยมในการใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะสามารถสร้างกำไรที่มากพอเพื่อรองรับคนงานที่มากขึ้นได้


ภาพจาก bit.ly/2n8KKq8
 
และแน่นอว่าปัญหาอีกอย่างหนึ่งของเหล่าร้านขายของชำ ก็คือ คนเริ่มเดินเข้าร้านขายของชำน้อยลงซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่แค่ร้านขายของชำเท่านั้นที่มองเห็น แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งก็เช่นกัน โดยเหล่าผู้ผลิตสินค้าต่างรู้ดีว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาควรมีแพ็คเกจอย่างไรถึงจะเพิ่มโอกาสในการขายได้ และเมื่อลูกค้าไม่เข้าร้าน เหล่าบริษัทผลิตสินค้าเหล่านั้นก็ควรพัฒนาสินค้าของตัวเองเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ายังอยากซื้ออยู่ ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่ถ้าคุณมองเห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหล่าสินค้าที่วางขายตามห้างร้าน คุณจะรู้ว่ามันยากแค่ไหนในการกระตุ้นการซื้อให้ลูกค้า.
 
สำรวจความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมร้านขายของชำอเมริกา


ภาพจาก bit.ly/2o3aXXy
 
ที่ผ่านมาเหล่าร้านขายของชำในอเมริกาพยายามเน้นไปที่การซื้อขายออนไลน์ภายในร้าน คือการคลิก และรวบรวมสินค้า โดยวอลมาร์ท ที่เป็นร้านขายของชำยักษ์ใหญ่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ระบบดังกล่าวนี้สามารถเป็นที่เรียนรู้ได้เร็วขึ้น และ ทอม วอร์ด รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการดิจิตอลของ Walmart ได้พูดในงานชุมนุมกลุ่มอุตสาหกรรมร้านขายของชำกล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างและฝึกอบรมเหล่าเจ้าของธุรกิจร้านชำที่ถูกเลือกกว่า 45,000 รายเกี่ยวกับเรื่องนี้


Narayan Iyengar
ภาพจาก bit.ly/2nbISx1
 
Narayan Iyengar รองประธานอาวุโสฝ่ายดิจิตอลและอีคอมเมิร์ซของ Albertson ได้ลองวางโครงสร้างทางเศรษฐศาสตร์ของร้านขายของชำ และได้อธิบายว่าร้านค้าสามารถขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ดีกว่าในพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น เพราะค่าขนส่งต่ำ และเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ร้านค้าต้องวางรัศมีพื้นที่จัดส่งไว้ที่ 9 ชั่วโมง ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีทางที่ร้านจะสามารถจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
 
นอกจากนี้ ร้านขายของชำออนไลน์ก็ยังมีอุปสรรคใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือ “Ocado” ที่เป็นผู้ให้บริการศูนย์กระจายสินค้าพื้นฐานขนาดใหญ่สัญชาติอังกฤษที่ปัจจุบันกำลังทำเงินได้กว่า 2พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากที่บริษัทนี้สามารถทำกำไรได้มหาศาล Ocado จึงร่วมมือกับ Kroger และขยายกิจการมาที่อเมริกาและได้ประกาศว่าจะสร้างศูนย์เติมสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์จำนวน 20 แห่งในอเมริกาและได้จัดตั้งไปเรียบร้อยแล้วในดัลลาร์ , ซินซิเนติ , ออแรนโด้  และแอตแลนต้า ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ Kroger จะได้ผลประโยชน์อยู่ไม่น้อยสำหรับการทดลองระบบการสั่งซื้อในรูปแบบใหม่นี้
 
ทำไมสิ่งที่อุตสาหกรรมร้านขายของชำทำจึงไม่เป็นผล? แล้วทำแบบไหนถึงจะดี?


ภาพจาก bit.ly/2nffm9G
 
เหล่าบรรดาร้านขายของชำต่างเลือกที่จะสร้างร้านค้าโดยแบ่งพื้นที่ในร้านส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับอำนวยความสะดวกสำหรับการจัดส่งออนไลน์ แล้วมันก็มีท่าทีว่าจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ โดย Perrier แห่งเมอร์คาทัสกล่าวว่าร้านขายของชำเหล่านั้นมี “ลูกตุ้มและโซ่ตรวจที่คอยถ่วงแข้งถ่วงขาอยู่” และร้านค้าเหล่านั้นก็มีแต่คู่แข่งที่มีความคิดที่ดีกว่าเข้ามาในตลาดพร้อมกับสิ่งที่ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง เหล่าบริษัทใหม่ๆ ต่างพัฒนาช่องทางในการขายที่ถึงมือลูกค้าโดยตรง และมีการทบทวนถึงวิธีการที่ร้านขายของชำจะขายสินค้าได้ ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับโครงสร้างการทำงานแบบเก่าๆ
 
ยกตัวอย่างเช่นบริษัท Fabric ได้สร้างศูนย์ปฏิบัติการไมโครหลายแห่งที่สามารถรับคำสั่งซื้ออีคอมเมิร์ซให้กับลูกค้าภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และมีศูนย์เติมสินค้าอัตโนมัติเป็นจำนวนมากในเขตเมืองที่หนาแน่นซึ่งทำให้กระบวนการซื้อเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถนำส่งได้ในไม่กี่นาที มันสร้างความสะดวกเป็นอย่างมากในอิสราเอลและกำลังถูกพัฒนาเพื่อใช้ในสหรัฐอเมริกา และ Iyengar แห่งบริษัท Albertson ได้พูดคุยเกี่ยวกับการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ว่ามันสามารถที่จะย่อส่วนซูเปอร์มาเก็ตให้มีพื้นที่เล็กลงกว่าเดิมได้และจัดขนส่งในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ด้วยการเอาหุ่นยนต์มาจัดการและนำเอา AI มาจัดการกับสินค้าที่เน่าเปื่อยง่าย

“ความเสี่ยง” และ “การตัดสินใจแบบไร้ข้อมูล” คือสิ่งที่อุตสาหกรรมร้านขายของชำต้องการ


Bob Iger ประธานและซีอีโอของบริษัท Disney
ภาพจาก bit.ly/2oEHnaV
 
ล่าสุด บ๊อบ อิเกอร์ ประธานและซีอีโอของบริษัท Disney ได้กล่าวถึงบางสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้ดีกับธุรกิจร้านขายของชำในขณะนี้ ว่า “เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น และสิ่งที่ต้องการก็คือความสามารถในการรองรับความเสี่ยงและความสามารถในการตัดสินใจโดยไร้ซึ่งข้อมูลใดๆ เพราะปัจจุบันนี้การหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจเป็นเรื่องยาก” นอกจากนี้ อิเกอร์ยังพูดถึง “ความอดทน และความกล้า” ที่จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจแบบไร้ซึ่งข้อมูล

ทุกวันนี้ผู้ประกอบการร้านขายของชำยังต้องการการทดสอบอีกมากเพราะยังไม่มีใครรู้ได้ว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่ดีสุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ และการหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจร้านขายของชำเช่นกัน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
แหล่งข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,689
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,319
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
520
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
520
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
462
นักธุรกิจ vs นักธุรโกย ต่างกันอย่างไร
434
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด