บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
2 นาที
2 ตุลาคม 2563
บริหารร้านบุฟเฟ่ต์อย่างไร ลูกค้ารู้สึกคุ้ม ร้านอยู่รอด
 

การเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ให้มีกำไรและอยู่รอดอาจไม่ใช่เรื่องง่ายของหลายๆ คน เนื่องจากต้องบริหารจัดการในเรื่องของต้นทุนอาหารไม่ให้สูง ควบคู่กับการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีวิธีการบริหารจัดการร้านบุฟเฟ่ต์ให้อยู่รอด ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ร้านอยู่ได้ มานำเสนอให้ทราบ
 
หัวใจสำคัญของการทำร้านบุฟเฟ่ต์ ก็คือ การสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ความรู้สึกของคนกินบุฟเฟ่ต์ คือ ต้องคุ้ม ต้องได้เยอะ ต้องถล่มให้แหลก หากลูกค้ากินร้านบุฟเฟ่ต์แล้ว รู้สึกไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โอกาสจะกลับมาอีกก็ยาก
 
ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลายของอาหาร และคุณภาพอาหารที่ดีเยี่ยม เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกคุ้มค่า แม้ว่าราคาจะแพง ลูกค้าที่กินราคาถูกอาจรู้สึกไม่คุ้มก็มี เพราะอาหารน้อย ไม่อร่อย 


ภาพจาก bit.ly/3ihRY1C
 
ส่วนในเรื่องของการตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 เป็นการตั้งราคาเชิงจิตวิทยา ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า จ่ายไม่แพงเท่าไรนัก เช่น บุฟเฟต์ราคา 199 บาท ลูกค้าจะรู้สึกว่าจ่ายเงินเพียงแค่ 100 กว่าบาทยังไม่ถึง 200 บาท ทำให้รู้สึกว่าราคายังจับต้องได้
 
นอกจกนี้ ผู้ที่จะเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ต้องศึกษาคู่แข่งว่าขายเท่าไหร่แล้วทดสอบ เช่น เอาเพื่อนมา 5 คน กินเท่าไรก็ได้ กินไปเลย แล้วประเมินดูว่า คนหนึ่งโดยเฉลี่ยกินหมูกี่กรัม กินเนื้อกี่กรัม กินปลากี่กรัม ตีออกมาเป็นต้นทุนเท่าไหร่ เป็นต้นทุนอาหารกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปิดร้านแล้วอยู่ได้หรือไม่ ถ้าอยู่ในช่วงที่กำหนดไว้ ก็เปิดร้านได้เลย 


ภาพจาก bit.ly/3jn1Zfr
 
ถ้าหากมีคนบอกว่าให้หอยนางรมเยอะขนาดนี้ก็เจ๊งอย่างเดียว ราคาตั้งหลายบาท แต่อย่าลืมว่าเวลาหากเราเป็นลูกค้าจะมองในมูลค่าของสินค้า เช่น หอย 1 ตัว ราคาขาย 99 บาท เขาคิดว่า กิน 5 ตัว ก็ 500 แล้ว คุ้ม แต่ฐานะเจ้าของร้านไม่ได้ซื้อของในราคา 99 บาท อาจจะซื้อตัวละ 30 บาท หากกิน 5 ตัว ยังแค่ 150 บาท แต่จริงๆ ลูกค้าไม่กินหอยอย่างเดียว 
 
อย่างไรก็ตาม การเปิดร้านบุฟเฟ่ต์เราจะไม่สามารถบังคับให้ลูกค้ากินนั่นกินนี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นของแพง หรือถูก แต่ถ้าลูกค้าชอบกินแต่ของแพงๆ ควรนำวัตถุดิบอะไรแพง วางไว้ด้านในสุดของร้าน เพราะกว่าลูกค้าจะเดินไปถึงต้องมีการตักวัตถุดิบอื่นๆ ใส่ไปในจาน เมื่อถึงตัววัตถุดิบแพงจานก็เต็มแล้ว ทำให้ใส่ของได้อีกไม่มาก รอมาตักรอบหน้าท้องก็คงเริ่มแน่นแล้ว 


ภาพจาก bit.ly/3cQvZxx
 
เรื่องของการบริการลูกค้าในร้านก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะการเสิร์ฟน้ำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเมื่อไหร่เห็นน้ำในแก้วลูกค้าลดลงต่ำกว่าครึ่ง พนักงานจะต้องรู้หน้าที่สำคัญคือ รีบไปเติมให้เลย เนื่องจากพฤติกรรมคนกินบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่เมื่อเห็นปริมาณน้ำเต็มแก้วใหม่ๆ มักจะหยิบขึ้นมาจิบเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ เมื่อจิบบ่อยๆ ท้องก็แน่นแล้ว
 
หรือแม้แต่การจัดโปรโมชั่น อย่าได้มองข้าม แต่ต้องทำอย่างมีวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และต้องสามารถวัดผลได้ เช่น ทำโปรโมชั่น มา 5 จ่าย 4 ช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น. (จันทร์-ศุกร์) เพื่อเพิ่มยอดขายในช่วง 14.00 – 17.00 น. เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ไม่มีลูกค้า จึงสามารถทำโปรโมชั่นส่วนลดในการดึงลูกค้าเข้าร้านได้
 
ร้านบุฟเฟ่ต์ที่จะประสบความสำเร็จ อยู่รอดได้ ต้องควบคุมต้นทุนให้ได้ พร้อมกับการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
แม้หลายคนบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตหรูหรา ออกไปทานอาหารนอกบ้าน จึงเป็นสาเหตุให้ร้านอาหาร “บุฟเฟ่ต์” มาแรง โดยเฉพาะร้านอาหารแนวญี่ปุ่นเติบโต 10-15% คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท อยากรู้หรือไม่ว่า ทำไมร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ถึง Hot ในประเทศไทย..
60months ago   2,994  3 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
411
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด