บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.7K
2 นาที
9 กรกฎาคม 2563
“ผู้เต่าเล่าเรื่อง” ตอนที่ 2 เมื่อ Gen Y กลายมาเป็นผู้นำธุรกิจและเป็นตลาดกลุ่มใหญ่


 
Baby Boomer คือ คนที่มีอายุระหว่าง 54-72 ปี เรียกว่า เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ส่วน Gen X จะมีอายุระหว่าง 38-53 ปี และ Gen Y คือ 21-37 ซึ่ง Gen Y เป็นตลาดที่เป็นที่จับตามากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มประชากรวัยทำงานที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสูง เป็นกลุ่มที่จะกำหนดความเป็นไปในอนาคตของโลกได้ในอีก 20 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว มีการคาดการณ์ว่า คนกลุ่มนี้ใช้จ่ายรวมกันเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และที่น่าสนใจมากคือ คน Gen Y อยู่ในทวีปเอเชียมากกว่า 1 พันล้านคน หรือ คิดเป็น 86% ของ Gen Y ทั่วโลก และนี่คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อมหาศาล


ภาพจาก freepik
 
Gen X ตอนปลาย และ Gen Y มีพฤติกรรมที่ชอบทำกิจกรรม มีรสนิยมในการใช้ชีวิต กว่า 80% มีอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Internet มากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป อยู่ในโลกของข้อมูลข่าวสารที่มีมากเกินไป จนพวกเขาไม่สามารถรับได้ทั้งหมด นอกเหนือจากการเป็นกลุ่มที่จะเป็นตลาดกลุ่มใหญ่แล้ว Gen Y กำลังเป็นกลุ่มที่มารับสืบทอดธุรกิจต่อจาก Silent Generation หรือ Baby Boomer คนกลุ่มนี้มักมีการศึกษาดี หลายคนจบจากเมืองนอก บางคนจบปริญญาโท เมื่อมองทำให้ ความตื่นเต้น ความคิดสร้างสรรค์ของ Gen Y ความมุ่งมั่นอาจสลายหายไปได้ในเวลาไม่นาน หรืออาจกลายเป็นสงครามย่อยๆ ไปเลยระหว่างสองเจนเนอเรชั่น เช่น รุ่นพ่อมักมีวิธีคิดแบบ “cost concern” แต่รุ่นลูกมักคิดแบบ “value concern” เมื่อต้องกลับมารับผิดชอบดูแลธุรกิจแทนรุ่นพ่อ ก็จะมาด้วยไฟแรง เต็มไปด้วย Passion และ Creativity ช่องว่างทางความคิดระหว่าง 2 วัยนี้ บางครอบครัวก็สามารถประณีประนอมกันได้


ภาพจาก freepik
 
แต่สำหรับบางครอบครัวความแตกต่างทางความคิดนี้จะบั่นทอนศักยภาพของคน Gen Y ไปมากเลยทีเดียว คำถามที่สำคัญคือ SMEs ส่วนใหญ่กำลังอยู่ในสถานการณ์นี้ จะต้องปรับตัวกันอย่างไรสำหรับการบริหารจัดการที่มีธุรกิจเป็นเดิมพัน ขนาดใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าธุรกิจของครอบครัวนั้นๆ
 
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักบริหารรุ่นใหม่จะทำให้เถ้าแก่รุ่นเก่าเปลี่ยนแปลงวิธีคิดได้ และแม้แต่นักบริหารรุ่นใหม่เอง ด้วยความที่ประสบการณ์ยังไม่มากนั่นคือสิ่งที่ทำให้ เถ้าแก่อย่างรุ่นพ่อไม่ไว้ใจนัก ทางออกจึงต้องมี “กุนซือ” หรือ “ที่ปรึกษา” ในการช่วยประสานและเชื่อมช่องว่างทางความคิดของทั้งสองรุ่น
 
“ที่ปรึกษา” ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ในการเชื่อมประสานความคิดของคนสองรุ่น แต่ต้องแสดงให้เห็นเชิงประจักษ์ต่อคนทั้งสองรุ่นได้ด้วยว่า สถานการณ์ของธุรกิจของ SMEs เหล่านั้นกำลังอยู่ในสถานะใด อะไรคือสิ่งที่กำลังเป็นภัยคุกคามและเป็นจุดอ่อนของธุรกิจ เพื่อให้ทั้งสองรุ่นยอมรับต่อสถานการณ์ปัจจุบันเสียก่อน แล้วค่อยนำไปสู่ทางแก้ไขหรือวิธีการสร้างสิ่งใหม่ให้แก่ธุรกิจและองค์กรต่อไป
 
ดังนั้น การฝันฝ่าด่านของความแตกต่างทางความคิดระหว่างสองรุ่น ถือเป็นด่านที่สำคัญด่านแรกของเจ้าของธุรกิจ SMEs ยิ่งมีมูลค่าต่อปีสูงมากเท่าไร ก็หมายความว่าเดิมพันยิ่งสูง เพราะการจะต่อยอดธุรกิจ จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องผสมผสานระหว่างแนวทางที่เป็นทฤษฎีและวิธีการทำงานแบบเดิมเข้าด้วยกัน ต้องเปิดใจยอมรับกันและกัน ร่วมมือกันไม่ใช่เห็นแย้งกัน การใช้ “ที่ปรึกษา” เข้ามาร่วมทีมบริหารจึงต้องมองหาผู้ที่มีประสบการณ์สูง มีความเข้าใจเชิงกลยุทธ์และมีทักษะที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี SMEs ก็จะสามารถฝันฝ่าคลื่นลมที่ถาโถมเข้ามาได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความขัดแย้งภายในอีกต่อไปครับ
 
ในโลกของการทำธุรกิจ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการมากที่สุดก็คือ “รายได้” ถ้าธุรกิจเป็นภาคการผลิต ก็ต้องการขายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้กำลังการผลิตสามารถใช้ได้เต็มที่ อันจะนำมาซึ่งต้นทุนการผลิตที่ถูกลง นั่นหมายถึง กำไรต่อหน่วยจะสูงขึ้น ในกระบวนการขายของภาคการผลิตก็จะใช้ช่องทางการจัด..
62months ago   1,830  4 นาที
วันนี้ผมเปลี่ยนหัวคอลัมน์จากเดิม "ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง" มาเป็น "กาแฟเล่าเรื่อง" เพราะชื่อแรกนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าไปซ้ำกับชื่อ ที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ใช้ในการทำเพจเล่าเรื่อง จึงไปซ้ำเข้า จึงคิดว่าขอเปลี่ยนเป็น "กาแฟเล่าเรื่อง" เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ได้จากการพูดคุย..
62months ago   1,663  4 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
607
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
501
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
408
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด