บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.7K
3 นาที
23 สิงหาคม 2564
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ใบกระท่อม
 

หลังจากที่ปลดล็อคกัญชากันไปเรียบร้อยพืชตัวต่อมาที่จะได้รับการปลดล็อคเช่นกันก็คือ “กระท่อม” ซึ่งต้องยอมรับว่าคนไทยรู้จักพืชชนิดนี้แต่โบราณ ในอดีตก่อนที่กระท่อมจะกลายเป็นยาเสพติด ผู้ใช้แรงงานในท้องไร่ท้องนา หรือแม้แต่ทหารเดินทัพออกศึกในอดีตก็ได้กระท่อมเสริมพลัง กินใบกระท่อมช่วยให้ทำงานกลางแจ้งได้ทนนานขึ้น ซึ่งในวันที่24 ส.ค. 2564 นี้ถือว่าเป็นการปลดล็อค “พืชกระท่อม” ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ

และ www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าพืชตัวนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับคนไทยได้มากขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นลองมาดูข้อมูลน่าสนใจที่เราเชื่อว่ามีอีกหลายคนยังไม่เคยรู้
 
1.สายพันธุ์ของ “กระท่อม” ที่คนนิยม

ต้นกระท่อมเป็นไม้ยืนต้นที่เลี้ยงง่าย ขึ้นง่าย ทนแดด ชอบฝน เกลียดหนาว ดูแลว่าย โดยสามารถสูงได้ถึง 16 เมตรเป็นอย่างน้อย โดยดอกของกระท่อมสามารถออกได้ในทุกฤดู ต้นกระท่อมนั้นมีอยู่หลายพันธุ์ เช่น ก้านขาว, ก้านแดง, แมงดา, แตงกวา แต่ที่นิยมปลูกกันมากในทางตอนใต้คือ แมงดา เพราะมีใบใหญ่ การสังเกตุอายุของใบกระท่อมให้จับบริเวณก้าน หากแข็งถือว่าแก่แล้ว โดยผู้ที่กินใบสดมักนิยมกินใบแก่ เพราะไม่แข็งและไม่ยึดติดฟัน แต่ถ้านำไปต้มนิยมใบอ่อนมากกว่า
 
2.สรรพคุณของ “กระท่อม”
 
ภาพจาก https://citly.me/08mcZ

“กระท่อม” มีสรรพคุณทางยามาตั้งแต่โบราณในสมัยก่อนใช้เข้าเป็นตัวยาในตำรับพวกประเภทยาแก้ท้องเสีย ปวดเบ่ง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องเสีย ท้องเฟ้อ ท้องร่วง ช่วยให้นอนหลับ และระงับประสาท ในมุมมองของแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่ จะนำพืชใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง ในสูตรยาของหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนโบราณ เช่น ตำรับยาประสะกระท่อม เป็นต้น
 
3.การใช้ “กระท่อม” ในการรักษาโรค

ในต่างประเทศพบว่ามีการใช้พืชกระท่อมเป็นยารักษาอาการเรื้อรังต่างๆ เช่น ช่วยลดความดันโลหิต บรรเทาเบาหวาน แก้ไอ แก้ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ เช่น ท้องเสีย บิดมีตัว ปวดท้องและกำจัดพยาธิในเด็ก และใช้เป็นการกระตุ้นร่างกายให้ทำงานหนักได้ และมีรายงานจากต่างประเทศกล่าวถึงการเริ่มศึกษาใบกระท่อมช่วยอาการซึมเศร้า โรควิตกกังวลและอื่นๆ อีกหลายโรคด้วย
 
4. “ไมทราไจนีน” สารสำคัญในพืชกระท่อม
 
จากการศึกษาพบว่า ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารสำคัญในกระท่อมโดยเป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกชา กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงาน ช่วยใช้กระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังพบสาร เซเว่นไฮดร็อกซีไมทราไจนีน (7-hydroxymitragynine) ในใบกระท่อม ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการตอบสนองความเจ็บปวดซึ่งให้ผลข้างเคียงน้อยกว่ามอร์ฟีนหลายประการ เช่น ไม่กดระบบทางเดินหายใจ ไม่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาการขาดยาไม่ทรมานเท่ามอร์ฟีน และบำบัดได้ง่ายกว่ายากล่อมประสาท
 
5.ไทยเป็นประเทศแรกที่ประกาศควบคุมการใช้พืชกระท่อม
 
ในประเทศไทยเริ่มมีกฎหมายเกี่ยวกับพืชเสพติดมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา โดยเริ่มจากกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมฝิ่น ซึ่งห้ามการซื้อ ขาย และเสพฝิ่น ในส่วนของพืชกระท่อมนั้น เราก็เป็นประเทศแรก ที่ประกาศควบคุมการใช้พืชกระท่อม โดยตราพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2486 ซึ่งระบุการห้ามปลูกและครอบครอง รวมทั้งห้ามจำหน่ายและเสพใบกระท่อม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 เป็นต้นมา และต่อมาในปี พ.ศ. 2522 กระท่อมได้ถูกจัดให้เป็นพืชเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก่อนที่จะมาถึงในปัจจุบันที่มีการปลดล็อคดังกล่าว
 
6.มีประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2564
 
เดิมที “กระท่อม” ถูกจัดให้เป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แต่หลังจากที่มีความพยายามผลักดันให้ใบกระท่อมหลุดออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 และต้องรอให้มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน ซึ่งคือวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ในกฎหมายฉบับนี้ มีผลให้ถอดกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 กล่าวคือหลังจากนี้ กระท่อมจะไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป
 
7.เตรียมปล่อยผู้กระทำผิดตามกฏหมายพืชกระท่อม

พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 ซึ่งจะมีผลวันที่ 24 ส.ค. 2564 เป็นการปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้ประชาชนสามารถปลูกและขายได้ รวมทั้งมีการปล่อยผู้กระทำความผิดตามกฎหมายพืชกระท่อมในวันที่ 24 ส.ค. 2564 จำนวน 1,038 ราย ถือว่าไม่เคยกระทำความผิด สำหรับผู้ถูกจับกุมหรือจำเลยในชั้นต่างๆ จะได้ดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปล่อยตัวผู้กระทำความผิดและผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม
 
8.คดีเกี่ยวกับ “ใบกระท่อม” มีกว่า 22,076 คดี
 
การประกาศปลดล็อคใบกระท่อมที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค. 64 ที่จะมีการปล่อยผู้กระทำผิดซึ่งประโยชน์ของเรื่องนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับการลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของภาครัฐและผู้ต้องหาหรือจำเลย 1,691,287,000 บาท โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (TDRI) ศึกษาพบว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลเท่ากับ 76,612 บาท ซึ่งคดีข้อหาพืชกระท่อมที่ขึ้นสู่ศาลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 - 30 มิ.ย. 2564 มีอยู่ถึง 22,076 คดี
 
9.ใบกระท่อม ปลดล็อคให้ปลูกและบริโภคตามวิถีชาวบ้านได้เท่านั้น

ภาพจาก https://citly.me/WBgm8

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้นิยามของคำว่าการปลดล็อคใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ ว่าระชาชนสามารถปลูกและบริโภคกระท่อมตามวิถีชาวบ้าน รวมทั้งยังซื้อหรือขายใบกระท่อมโดยไม่ผิดกฎหมาย แต่หากมีการนำไปผสมยาเสพติดอื่นๆ เช่น 4 × 100 เป็นความผิดตามกฎหมาย สำหรับการนำเข้าหรือส่งออกไปต่างประเทศในเชิงอุตสาหกรรมนั้น ต้องขออนุญาตก่อน
 
10.ความนิยมของ “พืชกระท่อม” ในต่างประเทศ
 
ทั้งที่กระท่อมเป็นต้นไม้ประจำถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถิ่นที่อยู่หลักๆ คือ ประเทศไทยและมาเลเซีย แต่จากการห้ามใช้ห้ามเสพกระท่อมอย่างเข้มงวดและมีโทษรุนแรง ทำให้ชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถใช้กระท่อมเป็นยาได้ ซึ่งในประเทศกลับมีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับพืชกระท่อมก้าวหน้าไปมาก ในช่วงเวลา 108 ปี (พ.ศ. 2440 – 2548)

นับแต่ชาวต่างชาติมาพบการใช้กระท่อมของคนไทยและมาเลเซีย มีนักวิทยาศาสตร์นำไปศึกษาจนเกิดผลงานวิจัยถึงกว่า 60 ชิ้น ปัจจุบันมีการศึกษาที่พบว่าสามารถจะนำสารสกัดจากกระท่อมไปพัฒนาเป็นยาแก้ปวดชนิดใหม่ในอนาคต ส่วนใหญ่เป็นผลงานการวิจัยของนักวิจัยอังกฤษและญี่ปุ่นที่เห็นคุณค่าของกระท่อมในฐานะที่เป็นยา
 
และหลังจากนี้หากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID คลี่คลายเชื่อว่าคนไทยหลายคนจะเริ่มหันมาผลิตสินค้าและแปรรูปสินค้าที่เกี่ยวกับใบกระท่อมมากขึ้น เช่นเดียวกับกระแสกระท่อมที่น่าจะฟีเว่อร์ไม่ต่างจากกัญชา ก็ถือเป็นเรื่องดีที่เราได้รับการปลดล็อคในเรื่องนี้แม้จะล่าช้ากว่าในอีกหลายประเทศก็ตาม
 
ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
จากข่าวที่ลุงขายไอศกรีมถูกเทศกิจจับเพราะจอดรถขายกีดขวางการจราจร ก็มีแง่มุมของเหตุและผลด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่สิ่งที่ www.ThaiFranchiseCenter.com สนใจคือเรื่องของ “ไอศกรีม” ด้วยรู้สึกว่านี่คือสินค้ายอดฮิตที่แม้จะดูว่าไม่น่าสนใจแต่ที่จริงแล้วคนขายไอศกรีมแบบรถเข็นในประเทศไทยมี..
34months ago   2,517  6 นาที
หากพูดถึงลูกชิ้นปิ้งรถเข็นข้างทางที่ถือว่าประสบความสำเร็จ และมีผู้คนพูดถึงกันมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “ลูกชิ้นปิ้งจอมยุทธ” ด้วยยอดขายหลักแสนบาทต่อเดือนกับลูกชิ้นไม้ละ 10 บาท โดยทีเด็ดของร้านลูกชิ้นแห่งนี้อยู่ที่ “น้ำจิ้มโคตรพริก” รสชาติถูกปากของใครหลา..
34months ago   2,968  5 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
750
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
691
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
630
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
501
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
425
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
416
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด